โรคเส้นเลือดในสมองตีบ โรคเงียบที่น่ากลัว

อาการของโรคเส้นเลือดในสมองตีบ คงเห็นคนที่มีอาการแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก เดินไม่ได้ มุมปากตก พูดไม่ชัด ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาดูปกติ มีความสุข ยิ้มแย้ม ร่าเริงแจ่มใสอยู่หรือไม่ แต่เพียงไม่กี่นาทีก็กลายเป็นว่าป่วยเข้าโรงพยาบาล คิดแล้วก็น่ากลัว ถ้าเป็นกับตัวเองขึ้นมาจะทำอย่างไรดี
ถ้าทั้งหมดนี้เกิดขึ้น คงเป็นข้อบ่งชี้ว่าเขาป่วยเป็นโรค “เส้นเลือดในสมอง” ซึ่ง นายแพทย์กานต์ ศักดิ์ศรชัย อายุรแพทย์ระบบประสาทสมอง โรงพยาบาลพญาไท 2 อธิบายว่า โรคเส้นเลือดในสมองเกิดจากการที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ทำให้สมองส่วนนั้นหยุดการทำงานซึ่งไม่สามารถรับรู้หรือรู้ตัวได้ ทั้งนี้จะพบว่าการเกิดเส้นเลือดในสมองตีบ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ และเกิดจากเส้นเลือดสมองแตก 20 – 30 เปอร์เซ็นต์ และพบในผู้สูงอายุมากที่สุด ยิ่งอายุมากขึ้น โอกาสที่จะเป็นก็มากขึ้นตามไปด้วย โดยในคนไทยพบว่าอายุเฉลี่ยที่ป่วยเป็นโรคนี้มากที่สุดคือ 65 ปี แต่จริงๆ แล้ว คนวัยอื่นๆ ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนี้เช่นกัน จากสถิติจะพบว่า เพศชายมีโอกาสเกิดโรคได้มากกว่าเพศหญิง รวมถึงผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง มีประวัติสูบบุหรี่ และนอนกรนก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบได้มากกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ยังพบว่าในคนที่มีภาวะเลือดแข็งตัวง่ายกว่าปกติก็มีโอกาสเกิดโรคมากขึ้นด้วยเช่นกัน
อาการที่ฟ้องว่าเส้นเลือดในสมองตีบมีหลากหลายอาการ โดยส่วนใหญ่ คือ ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก ทั้งนี้อาจจะเป็นเพียงชั่วคราวโดยที่อาการดังกล่าวหายไปได้เอง และบางครั้งก็อาจเป็นถาวรคือกลายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ในที่สุด และหากอาการรุนแรงถึงขั้นเนื้อสมองบวมมาก ผู้ป่วยอาจจะซึมลงและเสียชีวิตได้ ซึ่งในประเทศไทยมีอัตราการ ดังนั้นหากมีอาการตามที่กล่าวมาข้างต้น ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาโดยเร็วที่สุด เพราะหากชักช้าไม่รีบไปหาหมอ สมองของคุณจะถูกทำลายมากขึ้นในทุกวินาที

เรื่องนี้ถูกเขียนใน สุขภาพทั่วไป และติดป้ายกำกับ , , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร