3 สัญญาณเตือนโรคติดโซเชียล

หากพูดถึงเรื่องของโซเชียล รู้หรือไม่ว่าสมัยปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก แต่รู้หรือไม่ว่าการที่เราติดการเล่นโซเชียลมากเกินไป

สัญญาณเตือนโรคติดโซเชียล ก็อาจไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างแน่นอน เพราะคนส่วนใหญ่อาจจะเคยได้ยินคำที่ว่า โรคติดโซเชียลกันมาแล้ว ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นให้เราเห็นได้บ่อยมาก ๆ และยังเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าโลกโซเชียลจะเป็นสิ่งที่ทำให้เรานั้นได้เรียนรู้กับสิ่งใหม่ ๆ มากแค่ไหนก็ตาม

ต่ถ้าจะให้ดีเราก็ควรที่จะเล่นมันอย่างระมัดระวัง และเพื่อผ่อนคลายไม่ใช่ว่าเล่นจนส่งผลเสียต่อร่างกาย ดังนั้น เรามาดูกันดีกว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดโซเชียล ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า จะมีสัญญาณเตือนไหนบ้างที่สามารถบ่งบอกได้ว่าเราเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดโซเชียล ไปดูกันเลย 

  • อาการละเมอแชท

ซึ่งอาการนี้ถือว่าเป็นอาการที่สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าคุณกำลังเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดโซเชียล เพราะการที่เรามีอาการละเมอแชท หรืออยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาพิมพ์ข้อความบ่อย ๆ นั่นหมายความได้ว่าคุณเกิดการติดการเล่นโซเชียลจนทำให้เราต้องมานั่งละเมอ หรือบางครั้งอาจจะคิดว่ามีข้อความเด้งมาอยู่เสมอ โดยสมองจะทำการปลุกร่างกายของเราต่อสิ่งกระตุ้นเหล่านี้นั่นเอง 

  • โรควุ้นในตาเสื่อม

เนื่องจากในชีวิตประจำของเรานั้นเราก็ค่อนข้างที่จะใช้สายตาอย่างหนักอยู่แล้ว เพราะการที่เราใช้งานสายตาในการเพ่งมองสิ่งต่าง ๆ เป็นเวลานานจะยิ่งทำให้สายตาของเรานั้นเสื่อมสภาพได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราใช้สายตามาแล้วตลอดทั้งวัน แต่ก็ไม่ยอมที่จะหยุดพัก ย่อมส่งผลให้สายตาของเรานั้นได้รับความเสียหายอย่างหนัก ดังนั้น การติดการเล่นโซเชียลก็เช่นกัน หากเราติดมากเกินไป นอกจากจะส่งผลกระทบที่ไม่ดี ยังอาจทำให้เรามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรควุ้นในตาเสื่อมได้ 

  • อาการโนโมโฟเบีย

อาการนี้เรียกได้ว่าเป็นอาการที่แปลกมาก ๆ อาการหนึ่ง ซึ่งแปลกตรงที่เราเองจะรู้สึกกลัวเมื่อเราไม่มีมือถือเล่น หรืออาจจะมีความวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลาในเรื่องของการใช้โทรศัพท์ หรือในบางครั้งเราจะรู้สึกว่าเรานั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่โทรศัพท์แบตหมด หรือพัง เราก็จะมีอาการกระวนกระวายอยู่ตอลดเวลา จนส่งผลให้เรามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดโซเชียลนั่นเอง 

 

ได้รับการสนับสนุนจาก  เครื่องช่วยฟัง

เรื่องนี้ถูกเขียนใน สุขภาพ และติดป้ายกำกับ , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร